ลองมาเพิ่มความหวานละมุนให้กับร่างกายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับ 3 เมนูเบเกอรี่โฮมเมดง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้อย่าง คัพเค้ก คุกกี้ และ บราวนี่ ขนมหวานยอดฮิตที่ทุกคนชื่นชอบ แถมขั้นตอนการทำก็ไม่ยุ่งยากมากนัก เหมาะสำหรับส่งมอบให้เป็นของขวัญหรือทำทานเล่นในงานปาร์ตี้กับครอบครัวญาติพี่น้องก็เก๋ไม่ซ้ำใคร พร้อมแล้วมาเข้าครัวทำขนมส่งความสุขแทนใจด้วยของอร่อยให้กับคนพิเศษของเรา
คัพเค้ก RED VELVET
เติมความหวานให้กับคนที่คุณรัก ด้วยการทำขนมเบเกอรี่ คัพเค้ก Red Velvet เนื้อกำมะหยี่สีแดง น่ารับประทาน เพื่อมอบเป็นของขวัญในเทศกาสคริสต์มาสและปีใหม่นี้
ส่วนผสมและอุปกรณ์
- แป้งเค้ก 160 กรัม
- ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
- เบคกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
- ผงฟู ¼ ช้อนชา
- เนยจืด 80 กรัม
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำตาล 140 กรัม
- นมข้นจืด 100 กรัม
- น้ำส้มสายชู ½ ช้อนชา
- วนิลา ½ ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีแดง ½ ช้อนโต๊ะ
- พิมพ์คัพเค้ก
- เตาอบ
- ส่วนผสมครีมชีสฟรอสติ้ง
- ครีมชีส 150 กรัม
- เนยสดจืด 60 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
ขั้นตอนการทำ
-อุ่นเตารอไว้ที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียล
-เตรียมผสมนมข้นจืดกับสีผสมอาหารสีแดงรอพักไว้ ตามด้วยผสมแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ และผงโก้โก้ ร่อนให้เนื้อละเอียดแล้วพักทิ้งไว้
-ตีผสมเนยจืดกับน้ำตาลให้ขึ้นฟูเล็กน้อย จากนั้นใส่ไข่ไก่และวนิลาลงไปผสมให้เข้ากันด้วยเครื่อง
-ทยอยเทแป้งที่ผสมไว้โดยแบ่งใส่ 3 ครั้ง สลับกับนมข้นจืดผสมสีแดงที่เราเตรียมไว้ตอนต้น
-ใส่น้ำส้มสายชูและเบคกิ้งโซดาผสมให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์คัพเค้กนำเข้าอบประมาณ 25 นาทีหรือจนคัพเค้กสุก
-ระหว่างรอเบเกอรี่เรามาทำครีมชีสฟรอสติ้งสำหรับตกแต่งหน้า ผสมครีมชีส เนยสดจืดตีให้เข้ากัน ค่อยๆ ทยอยใส่น้ำตาลลงไปขณะตี จนได้ครีมชีสเนื้อฟูขาวเตรียมที่จะใส่ถุงบีบแช่เย็นเก็บไว้
-คัพเค้กสุกแล้วทิ้งไว้ให้เย็นก่อน แล้วค่อยนำตัวครีมชีสฟรอสติ้งมาบีบตกแต่งหน้าเพิ่มความสวยงาม
คุกกี้ช็อคโกแลตชิพ
ขนมเบเกอรี่ยอดนิยมที่ใครๆ ก็รู้จักอย่าง คุกกี้ช็อคโกแลตชิพ ขนมหวานอันดับต้นๆ ที่ทุกคนโปรดปรานและนิยมมอบให้แก่กันเนื่องในโอกาสพิเศษช่วงเทศกาลแห่งความสุข เราจึงไม่พลาดนำสูตรการทำคุกกี้ง่ายๆ ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้แถมอร่อยอีกด้วย
ส่วนผสมและอุปกรณ์
- แป้งเอนกประสงค์ 240 กรัม
- เนยจืด 180 กรัม
- น้ำตาลทรายละเอียด 120 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
- เกลือ ½ ช้อนชา
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- ไข่แดง 1 ฟอง
- อัลมอนด์สับ
- ช็อคโกแลตชิพ
- กลิ่นวานิลลา
- ช้อนตง
- ที่ตักไอศกรีม
- พายยาง
- เครื่องผสม
- ถาดเข้าอบ
- เตาอบ
ขั้นตอนการทำ
-อุ่นเตาที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียล
-นำผงฟูใส่ลงไปในแป้งเอนกประสงค์คนให้เข้ากัน
-ตีเนย น้ำตาลทราย น้ำตาลทรายแดงและเกลือ ด้วยเครื่อง จากนั้นใส่ไข่และวนิลาทีละครึ่งจนหมด
-เสร็จแล้วใส่แป้งลงไปโดยแบ่งใส่ 3 ครั้ง ใช้พายคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
-ใส่อัลมอนด์สับและช็อคโกแลตชิพลงไปคลุกให้เข้ากัน
-ตักคุกกี้ด้วยที่ตักไอศกรีมวางลงบนถาดที่ทาเนยเรียบร้อย จากนั้นใช้มือกดให้แบน
-นำเข้าเตาอบ 12-15 นาที หรือจนกว่าเป็นสีเหลืองทอง
-อบเสร็จแล้วนำมาพักบนตะแกรงให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ
บราวนี่ LOW FAT
เอาใจคนรักสุขภาพที่ชอบทานช็อคโกแลตกับเบเกอรี่ยอดนิยมอย่างบราวนี่ แต่ขอบอกเลยว่าสำหรับใครที่กลัวอ้วนไม่ต้องตกใจไป เพราะเรานำวิธีทำบราวนี่แบบ Low Fat มาฝาก นอกจากจะหอมอร่อยแล้วยังทำง่ายแสนง่าย สามารถมอบเป็นของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ในปีใหม่นี้ได้อีกด้วย
ส่วนผสมและอุปกรณ์
- แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
- ผงโกโก้แบบ Unsweetened ¾ กับอีก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 2 ถ้วย
- เกลือ ½ ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- vanilla extract 2 ช้อนชา
- Apple Sauce 8 ออนซ์
- ไข่ 4 ฟอง
- เตาอบ
ขั้นตอนการทำ
-อันดับแรก วอร์มเตาอบไว้ที่ 175 องศาเซลเซียส เพราะขนมหวานเบเกอรี่ต้องอบในเตาที่ร้อนแล้วเสมอ
-ร่อนแป้ง ผงโก้โก้ และเกลือ เพื่อให้เนื้อเนียนละเอียดไม่จับเป็นก้อน จากนั้นใส่น้ำตาลลงไปคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
-ใส่ Apple Sauce ลงไป ตามด้วยน้ำมันพืชเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับตัวบราวนี่ จากนั้นคนให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมเริ่มจับตัวเป็นก่อนให้ใส่ไข่ตามลงไป
-ใช้ไม้พายยางตะลอมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วใส่วานิลาลงไปเพื่อดับกลิ่นของไข่เพราะสูตร low fat เราไม่มีกลิ่นของเนยและช็อกโกแลตเพิ่มความหอม คนให้เข้ากันเพื่อเตรียมนำไปอบในเตา
-ทาน้ำมันที่ถาดกันบราวนี่ติด เทส่วนผสมลงในถาด ใช้ไม้พายยางปาดหน้าให้เนียนเรียบ แล้วนำเข้าเตาอบเป็นเวลา 25 – 30 นาที
-เมื่อได้ที่แล้วนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นลงก่อนนำออกจากถาด หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ
ทำไม่ยากเลยใช่ไหมคะกับ 3 สูตรเบเกอรี่ ที่เรานำมาฝาก สำหรับไว้ทำเป็นของขวัญมอบให้คนที่คุณรักในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ถ้าใครอยากได้อุปกรณ์ทำขนมมาเป็นตัวช่วย สามารถเข้ามาช้อปได้ที่ Central Online เครื่องครัวและอุปกรณ์ทำเบเกอรี่มากมาย เราคัดสรรไว้สำหรับคนชอบทำขนมเช่นคุณ
ขอบคุณแหล่งที่มา: www.central.co.th
