สำหรับ”โคมไฟ” ถือว่าเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่จำเป็นอย่างมากภายในบ้าน หากเลือกได้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความน่าอยู่ให้กับบ้านได้มากกว่าเดิมอีกด้วย ก่อนการเลือกซื้อควรคำนึงถึงความเหมาะสม ว่าจะต้องใช้แบบไหน แสงสว่างมากเพียงใด เพื่อให้การใช้งานห้องนั้นๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ การเลือกอุปกรณ์ของใช้ตกแต่งภายในบ้าน ผู้อาศัยต้องอยากได้ของใช้ที่มีคุณภาพดี และเหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน
การเลือกแสงไฟในบ้านหรือโคมไฟที่ใช้ในการอ่านหนังสือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอ่านหนังสือจากกระดาษ ดีกว่าการอ่านบนหน้าจอต่างๆ ทุกชนิด ที่เหลือก็แค่อ่านในที่ๆ มีแสงสว่างเหมาะสม อยากมีแสงสว่างที่เหมาะสม ก็ต้องหาโคมไฟตั้งโต๊ะมาใช้งาน ซึ่งการซื้อโคมไฟอ่านหนังสือ เราไม่ได้เอาแค่แสงไฟเพียงอย่างเดียว แต่เราสามารถวางโคมไฟเพื่อใช้ในการตกแต่งประดับบ้านได้อีกด้วย วันนี้เราจะพามาดูเทคนิคการเลือกโคมไฟอ่านหนังสือได้แบบง่ายๆ แถมยังได้โคมไฟที่สวยงามเหมาะกับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยด้วยค่ะ
หลักการในการเลือกโคมไฟให้ดูดี และเหมาะกับการใช้งาน

- โคมไฟต้องสวยงาม เข้ากับบ้าน
บ้านที่คุณอยากอยู่มันต้องมีบรรยากาศที่ดีจริงไหม แล้วจะสร้างบรรยากาศดีๆ ได้อย่างไร รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หลายๆ อย่างมารวมกัน เมื่อเฟอร์นิเจอร์ Style เดียวกันหลายๆ ชิ้นมาอยู่รวมกัน ก็จะเกิดพลัง ดังนั้นในเมื่อโคมไฟก็เป็น 1 ในเฟอร์นิเจอร์ที่ทำ Interior สมบูรณ์แบบ เสียตังค์ทั้งที Function ต้องได้ Design ต้องเยี่ยม
- เลือกใช้หลอด LED
ตำราเดิมๆ จะเขียนว่าหลอดไส้ธรรมดาดีที่สุด เชื่อว่าทุกคนคงเห็นแหละว่าโลกปัจจุบันกำลังเข้าสู่ยุคของ LED อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นลองมาดูกันครับว่า LED เหมาะกับการอ่านหนังสืออย่างไร
- แสงจาก LED ไม่มีรังสีอินฟราเรด และ อัลตราไวโอเลต
ซึ่งถ้าให้อธิบายอย่างง่ายๆ อินฟราเรดก็คือคลื่นความร้อน ส่วนอัลตร้าไวโอเลตคือรังสีที่ทำลายเซลล์ผิวในร่างกาย ส่งผลให้หน้าเหี่ยว เป็นฝ้า และที่น่ากลัวที่สุดก็คือมะเร็งผิวหนัง (หลอดอื่นๆมีอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะ)
- หลอดไฟไม่ร้อน โบราณเขาว่าอย่าเล่นกับไฟ หลอดไฟก็อย่าไปเล่น จับแล้วนิ้วพอง เจ็บมากจริงๆ
เนื่องจากโคมไฟตั้งโต๊ะอ่านหนังสือ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่วางไว้ใกล้เรามากถึงมากที่สุด มันจึงมีโอกาสที่ใครจะไปแตะโดนได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ไม่มีประสบการณ์นิ้วไหม้

ดังนั้นใช้ LED มันดีกว่าหลอดไส้ตรงที่มันไม่ร้อนนี่แหละ ใช้แล้วปลอดภัย
- ประหยัดไฟ จะว่าไป โคมไฟตั้งโต๊ะทำงาน หรือ โคมไฟอ่านหนังสือ มันก็ตัวเดียวกันนั่นแหละ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยู่กับโต๊ะทำงานวันละ 7-8 ชั่วโมง เปลี่ยนมาเป็น LED คุณจะสามารถประหยัดค่าไฟได้มากถึง 4-5 เท่าเลยทีเดียว
- มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน LED 1 หลอด อาจมีอายุการใช้งานเท่ากับหลอดไส้ 8-20 หลอด แปลว่า คุณไม่ต้องเดินไปซื้อหลอดไฟมาเปลี่ยนบ่อยๆ ขณะเดียวกัน คุณก็ช่วยลดจำนวนขยะบนโลกของเราด้วย
- เลือกสีของแสงให้เหมาะสม
“สี” ของแสง หรือบางคนเรียกว่า “อุณหภูมิแสง” สำหรับการอ่านหนังสือ คนส่วนมากนิยมใช้แสง Warm White หรือ Cool White หรือถ้าพูดในภาษาชาวบ้านก็คือ “แสงเหลือง” และ “แสงขาวธรรมชาติ” นั่นแหละ
ว่าด้วยเรื่องกระดาษนะครับ เวลาอ่านหนังสือ แสงจากต้นกำเนิดแสงจะตกกระทบลงบนกระดาษ จากนั้นก็สะท้อนเข้าตาเรา เกิดการรับภาพส่งไปยังสมอง แสงที่สะท้อน มันสะท้อนรังสี UV เข้าตาด้วย ดังนั้น ผู้อ่านหนังสือที่รักษาสายตาทั้งหลายจึงควรลองพิจารณากระดาษ Green Read (กระดาษสีเหลืองๆ นวลๆ ผิวหยาบเล็กน้อย เป็นมิตรต่อสายตา)
ว่ากันโดยหลักการ Green Read มีคุณสมบัติช่วยดูดกลืนแสงในช่วงแสงสีน้ำเงินได้ดี จึงลดแสงสะท้อนเข้าตาได้ประมาณ 15% มันจึงลดความจ้าและลดปริมาณ UV ที่เข้าสู่ตาของคุณ ขณะเดียวกันถ้าคุณต้องพิมพ์งานที่ Serious เรื่องสี ก็อย่าเลือก Green Read เดี๋ยวสีจะเพี้ยนหมด กระดาษที่มันขาวก็เพราะใส่สารเพิ่มความขาว มันเป็นสารเรืองแสง หรือ Optical Brightening Agents (OBA) ซึ่งกินไม่ได้ สำหรับประเทศไทย ไม่มีกฎหมายควบคุมแก้วกรวยกระดาษสำหรับดื่มน้ำ ดังนั้นฝากระวังไว้ด้วย กรวยขาวๆ ดูสะอาดตา อาจมีสารปนเปื้อนอยู่ก็ได้ แล้วถ้ามันมี และคุณดื่มบ่อยๆ คุณก็อาจเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ครับ

- เลือกความสว่างให้เหมาะสม
มืดไปก็ไม่ดี สว่างไปก็ไม่ดี ทำให้ตาพังเร็วขึ้นทั้งนั้น แถมยังมีอิทธิพลต่อความรู้สึกอีกเช่น พอมืด ก็ชักเคลิ้มๆ ง่วงๆ ดังนั้นเพื่อสุขลักษณะที่ถูกต้อง ควรให้มีค่าความสว่างบนโต๊ะอ่านหนังสือประมาณ 500 lux ทั้งนี้ชีวิตจริง คงไม่มีใครนั่งวัดค่าความสว่างที่ตกกระทบบนหนังสือ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ จะเห็นได้ว่าการเลือกโคมไฟอุปกรณ์ตั้งโต๊ะ หรือโคมไฟในบ้านที่ใช้งานต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน และดูดี และแสงของหลอดไฟต้องช่วยในการถนอมสายตา และเหมาะกับการใช้งานในทุกๆ สถานการณ์ภายในบ้านจะได้คุ้มค่า ประหยัดต่อการใช้งาานด้วยเช่นกัน
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://lightinghouse.co.th