
ปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว เป็นเมนูอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนรักสุขภาพ เนื่องจากเมนูปลาแซลมอนย่างซีอิ๊วเป็นเมนูที่ไม่ได้ใช้น้ำมันมาปรุงกันเลยค่ะ จึงทำให้เป็นเมนูที่เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก แถมปลาแซลมอนยังมีประโยชน์ต่อสมองและผิวพรรณอีกด้วยนะคะ มาดูสูตรการทำปลาแซลมอนย่างซีอิ๊วสุดอร่อยกันค่ะว่าขั้นตอนจะมีอะไรบ้าง
ปลาเเซลมอนเป็นอาหารที่ย่อยง่าย โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ยิ่งถ้าเป็นปลาทะเล ก็จะมีสารไอโอดีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยให้ร่างกายรักษาสมดุลของต่อมไทรอยด์ ทำให้ไม่เกิดโรคคอพอก แต่การนำมาปรุงอาหารนั้น เพื่อลดความจำเจ เราสามารถนำปลามาปรุงได้หลายเมนูค่ะ เช่น ต้มยำปลา แกงป่าปลา ปลาทอดสามรส ปลานึ่งมะนาว ปลานึ่งซีอิ๊วสำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุ เป็นต้น วันนี้เราจะเสนอเมนูที่ทานได้ทุกวัย คือ ปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว เพราะใช้น้ำมันน้อยมากในการปรุง แถมยังใช้เวลาทำไม่นานก็ได้ทานแล้ว

เครื่องปรุงและส่วนผสม ปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว
1. เนื้อปลาแซลมอน (ชิ้นละประมาณ 100 กรัม) 2 ชิ้น
2. หัวปลาและก้างปลาทะเลสับเป็นชิ้นใหญ่ 100 กรัม
3. ปลาโอขูดแห้ง 10 กรัม
4. แครอทหั่นทั้งเปลือก 100 กรัม
5. หัวหอมใหญ่หั่นแว่น 200 กรัม
6. ขิงแก่หั่นทั้งเปลือก 100 กรัม
7. สาเก 1/2 ถ้วย
8. ซีอิ๊วญี่ปุ่น 2/3 ถ้วย
9. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
10. กะหล่ำปลีซอย 1/2 ถ้วย
11. มะเขือเทศหั่นแว่น 1 ลูก

วิธีการทำ ปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว
1. ทำซอสซีอิ๊วญี่ปุ่นสำหรับทาบนปลาย่าง โดยอบหัวและก้างปลา ขิงแก่ หอมใหญ่ แครอท จนสุกหอม มีกลิ่นไหม้เล็กน้อย
2. ตั้งหม้อ ใส่สาเก ตั้งไฟกลางให้แอลกอฮอล์ระเหย ใส่ส่วนผสมข้อ 1 ลงหม้อ ใส่น้ำตาล ซีอิ๊วญี่ปุ่น ลดไฟอ่อน เคี่ยวต่อ 15 นาที จากนั้นใส่ปลาโอขูดแห้ง เคี่ยวอีก 5 นาที จนมีกลิ่นหอม ยกลง กรองเอาแต่น้ำซีอิ๊ว
3. ขอดเกล็ดปลาแซลมอน ล้างและซับน้ำให้แห้ง หมักซอสซีอิ๊ว 1/4 ถ้วย คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักในตู้เย็นช่องธรรมดา 30 นาที
4. นำปลาแซลมอนไปย่างในกระทะร้อนด้วยไฟกลางจนสุกเหลืองทั่วทั้งสองด้าน ระหว่างย่างนำซอสซีอิ๊วญี่ปุ่นมาทาไปด้วยจนทั่ว
5. ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ ทานพร้อมกับผักสลัด
น่าทานมาก ๆ เลยใช่ไหมคะกับเมนูปลาแซลมอนย่างซีอิ๊วที่เรานำมาฝาก คงจะถูกใจคนรักสุขภาพไม่น้อย ซึ่งต้องบอกเลยค่ะว่าวิธีการทำนั้นก็สุดจะง่าย ไม่ยุ่งยาก ใครที่ชอบทานเมนูนี้ก็ไม่ต้องออกไปซื้อทานที่ร้านให้เสียเงินเสียทองมากมาย เพียงแค่ทำตามสูตรที่เรานำมาฝากนี้ คุณจะได้ความอร่อยและสุขภาพดีตามมาอีกด้วยนะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : www.thaifooddb.com